วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กิจกรรมทางศาสนา

กิจกรรมทางศาสนา
การไหว้พระสวดมนต์เป็นประจำทุกวันPDFพิมพ์อีเมล
วันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2009 เวลา 12:33
 พุทธศาสนิกชนผู้มีคามเลื่อมใสมั่นคงในพระพุทธศาสนา ก่อนจะออกจากบ้านและก่อนเข้านอนนิยมสวดมนต์เพื่อทำให้จิตใจสงบ เพราะการสวดมนต์เป็นการสรรเสริญคุณพระศรีรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ บทสวดมนต์ นำมาจากพระสูตรต่าง ๆ ในพระไตรปิฎกบ้าง นักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาแต่งขึ้นบ้าง เพื่อใช้สวดในโอกาสต่าง ๆ เป็นอุบายฝึกจิต และฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี เพราะขณะสวดมนต์จิตของผู้สวดจะต้องจดจ่ออยู่ที่บทสวด จึงจะสวดได้ถูกต้อง ถ้าจิตฟุ้งซ่านแล้ว ก็จะสวดผิดบ่อย ๆ ผู้ที่สวดมนต์เป็นประจำ จะได้รับอานิสงส์ต่าง ๆ เช่น ตัดความกังวลได้ เพราะขณะสวดจิตระลึกถึงแต่บทสวด ปล่อยวางความคิดอย่างอื่นเสียได้ ได้เจริญพุทธานุสสติ เพราะขณะสวดจิตระลึกถึงพระพุทธคุณ และคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และจิตเป็นสมาธิมั่นคง จิตจะแน่วแน่อยู่ในอารมณ์เดียว เมื่อสวดเป็นประจำจะทำให้เป็นคนมีจิตมั่งคง เป็นต้น
 
การทำบุญใส่บาตรประจำวันPDFพิมพ์อีเมล
วันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2009 เวลา 12:42

การทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์เวลาเช้าประจำวัน นับเป็นส่นหนึ่งที่ได้ช่วยกันสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ และให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ดังนั้นการใส่บาตรประจำวัน เป็นวิธีการสร้างบุญวาสนาบารมี อันจะเป็นปุพเพกตปุญญตาสำหรับตนต่อไป ในอนาคตโดยตรง และเป็นผลดีที่ได้ช่วยอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาโดยอ้อม นิยมจัดทำตามกำลังศรัทธา และตามความสามารถแห่งกำลังทรัพย์ เท่าที่จะทำได้ โดยไม่เกิดความเดือดร้อนในการครองชีพ เช่น ใส่บาตรวันที่ 1 รูปบ้าง 2 รูปบ้าง 3 รูปบ้าง เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม...
 
การทำบุญใส่บาตรวันเกิดPDFพิมพ์อีเมล
วันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2009 เวลา 12:44
  
ชาวพุทธส่วนมากนิยมทำบุญด้วยการใส่บาตร ประจำวันเกิดทุกสัปดาห์ เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ก็นิยมใส่บาตรวันอาทิตย์ เป็นต้น บ้างนิยมทำบุญด้วยการใส่บาตรเมื่อถึงวันเกิดทุกรอบปีบ้าง การทำบุญใส่บาตรประจำวันเกิดนี้ นิยมใส่บาตรพระเท่าอายุ หรือเกินกว่าอายุ 1 ปี เช่น คนอายุ 25 ปี ก็ยิยมใส่บาตรพระ 25 รูปบ้าง 26 รูปบ้าง เป็นต้น
   การทำบุญใส่บาตรประจำวันเกิดนี้ เพื่อเป็นการสร้างสมอบรมบุญวาสนาบารมี อันจะเป็นปุพเพกตปุญญตา ยังมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการเพิ่มเติมบุญกุศล อันเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ดวงประทีป เพื่อให้ดวงประทีปไม่ดับ และให้ลุกโพลงขึ้น มีแสงสว่างไสวสืบต่อไปได้นานฉันใด การทำบุญใส่บาตรประจำวันเกิดนี้ ก็เพื่อเพิ่มเติมบุญกุศล คือ น้ำมันหล่อเลี้ยงชีวิต เพื่อให้ชีวิตของตนไม่ดับ และให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองสืบไปได้นาน ฉันนั้น
 
การเข้าวัดวันธรรมสวนะPDFพิมพ์อีเมล
วันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2009 เวลา 13:18

   พุทธศาสนิกชนสามารถปฏิบัติศาสนกิจในวันธรรมสวนะ คือ วันกำหนดประชุมฟังธรรมของพุทธบริษัท ที่เรียกเป็นคำสามัญโดยทั่วไปว่า "วันพระ" เป็นประเพณีนิยมของพุทธบริษัท ที่ได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาแล้วแต่ครั้งพุทธกาล โดยถือว่าการฟังธรรมตามกาลที่กำหนดเป็นประจำไว้ ย่อมก่อให้เกิดสติปัญญา และสิริมงคงคลแก่ผู้ฟัง อย่างน้อยได้รับธรรมสวนานิสงส์อยู่แล้ว วันกำหนดฟังธรรมนี้ พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ในเดือนหนึ่ง ๆ ทั้งข้างขึ้น และข้างแรมรวม 4 วัน ได้แก่
   1. วันขึ้น 8 ค่ำ
   2. วันขึ้น 15 ค่ำ
   3. วันแรม 8 ค่ำ
   4. วันแรม 14 หรือ 15 ค่ำ (หากตรงกับเดือนขาด เป็นแรม 14 ค่ำ)
อ่านเพิ่มเติม...
 
การบำเพ็ญสมาธิPDFพิมพ์อีเมล
วันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2009 เวลา 13:20

ผู้จะเริ่มบำเพ็ญสมาธิ พึงจุดเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัย คือ ธูปเทียน แล้วนั่งคุกเข่า ประนมมือกล่าวคำนอบน้อมบูชาพระรัตนตรัย ตามลำดับ ดังต่อไปนี้
   คำบูชาพระรัตนตรัย
   นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (กล่าว 3 หน)
   อิมินา  สักกาเรนะ  พุทธัง  อะภิปูชะยามิ
   อิมินา  สักกาเรนะ  ธัมมัง  อะภิปูชะยามิ
   อิมินา  สักกาเรนะ  สังฆัง  อะภิปูชะยามิฯ
อ่านเพิ่มเติม...
 
การรักษาศีลPDFพิมพ์อีเมล
วันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2009 เวลา 13:46

การรักษาศีล คือ ความประพฤติดี หรือประพฤติชอบ ทางกายและวาจา การรักษากายวาจา ให้เรียบร้อย เป็นพื้นฐานของการทำความดีทุกอย่าง บุคคลครวได้มีการปฏิบัติควบคู่กับการรักษาศีล ด้วยเหตุว่ามีผู้มีศีลย่อมเป็นบ่อเกิดของคุณธรรมต่าง ๆ จะนำพาและเป็นแนวทางแห่งการทำความดี และจรรโลงชีวิต ส่งเสริมให้เกิดความสงบสุข การประพฤติปฏิบัติที่เป็นคุณงามความดี เพื่อความสงบสุขของตนเองและสังคม ได้แก่ ศีล 5 (เบญจศีล) และธรรม 5 (เบญจธรรม)

วันสำคัญทางศาสนา

วันสำคัญทางศาสนา


คลิ๊กดูรายละเอียด วันมาฆบูชา
 วันมาฆบูชา : โ อ ว า ท ป า ฏิ โ ม ก ข์

ตรงกับวัน ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ หรือ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ในปีอธิกมาส

   เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณภายใต้ต้นอัสสัตถพฤกษ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ พระองค์ประทับเสวยวิมุติสุขในเขตปริมณฑลนั้นเป็นเวลา ๗ สัปดาห์ จากนั้นจึงเสด็จไปโปรดคณะปัญจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี » อ่านต่อ


คลิ๊กดูรายละเอียด วันวิสาขบูชา
 วันวิสาขบูชา : ประสูติ - ตรัสรู้ - ปรินิพพาน
ตรงกับวัน ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖

ความหมาย คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสา - ขบุรณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน ๗ » อ่านต่อ


คลิ๊กดูรายละเอียด วันอัฏฐมีบูชา
 วันอัฏฐมีบูชา : วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
ตรงกับ วันแรม ๘ ค่ำ แห่งเดือนวิสาขะ (เดือน ๖) 

ความหมาย เนื่องด้วยอัฏฐมีคือวันแรม ๘ ค่ำ แห่งเดือนวิสาขะ (เดือน ๖) เป็นวันที่ถือกันว่าตรงกับวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เมื่อถึงวันนี้แล้ว พุทธศาสนิกชนบางส่วน ผู้มีความเคารพกล้าในพระพุทธองค์ มักนิยมประกอบพิธีบูชา ณ ปูชนียสถานนั้น ๆ วันนี้จึงเรียกว่า "วันอัฏฐมีบูชา" » อ่านต่อ


คลิ๊กดูรายละเอียด วันอาสาฬหบูชา
 วันอาสาฬหบูชา : พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา
ตรงกับวัน ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘

   วันอาสาฬหบูชา เป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนา เพราะเป็นครั้งแรกที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง พระธรรมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสชิ ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นผู้อุปฐากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยาอยู่ พระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงเทศนาในครั้งนี้มีชื่อว่า "ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร" ซึ่งได้แก่อริยสัจ 4 ซึ่งหมายถึง ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการคือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เมื่อจบพระธรรมเทศนาแล้ว โกญฑัญญะ ก็สำเร็จพระโสดา รู้ตามกระแสพระธรรมของพระพุทธเจ้า ดังนั้นจึงนับได้ว่า วันนี้ เป็นวันแรกที่มีพระรัตนตรัยครบเป็นองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า นับเป็นวันแรกที่ พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา » อ่านต่อ


คลิ๊กดูรายละเอียด วันเข้าพรรษา
 วันเข้าพรรษา
ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ จนถึง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑

   ตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงมีพระชนม์อยู่ ได้ทรงเสด็จ ไปยังทุกแห่งหน เพื่อสั่งสอนหลักธรรมอันประเสริฐ จนมีพุทธสาวกมากมาย โดยมุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์สุขแก่หมู่มวลมนุษย์โลก พระองค์ได้เสด็จไปยังถิ่นทุรกันดาร ในทุกฤดูกาล ต่อมา ปรากฏว่าในช่วงพรรษาหรือช่วงฤดูฝนได้มีผู้ร้องขอต่อพระองค์ว่าได้เกิดความเสียหาย แก่ข้าวกล้าเพราะถูกเหยียบโดยพุทธบริษัท ซึ่งไม่ได้เจตนา ดังนั้นพระองค์จึงออกพุทธบัญญัติกำหนดให้ พระสงฆ์ทุกรูป จำพรรษา เป็นหลักเป็นแหล่งในช่วงฤดูฝน โดยให้เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนกระทั่งถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 นับเป็น เวลา 3 เดือน ในวันเข้าพรรษานี้ จะมีการทำบุญตักบาตร ถวายผ้าอาบน้ำฝนและจตุปัจจัยแก่ พระภิกษุ สามเณร รวมทั้งยังมีการ ถวายเทียนพรรษา แก่วัดอีกด้วย » อ่านต่อ


คลิ๊กดูรายละเอียด วันออกพรรษา
 วันออกพรรษา
ตรงกับวัน ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑

วันออกพรรษา คือวันสิ้นสุดระยะการจำพรรษา หรือออกจากการอยู่ประจำที่ในฤดูฝนซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ » อ่านต่อ

 หลังจากวันออกพรรษาแล้วมีประเพณีอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธนิยมทำกันมากคือ การทอดกฐิน[รายละเอียด]


คลิ๊กดูรายละเอียด วันโกน-วันพระ
 วันโกน - วันพระ
วันโกน คือ วันขึ้น ๗ ค่ำ กับ ๑๔ ค่ำ และแรม ๗ ค่ำ กับแรม ๑๔ ค่ำ ของทุก เดือน ( หรือ แรม ๑๓ ค่ำ หากตรง กับเดือนขาด ) ซึ่งเป็นวันก่อนวัน พระ ๑ วัน นั่นเอง
วันพระ หรือ วันธรรมสวนะ คือ วันขึ้น ๘ ค่ำ กับ ๑๕ ค่ำ และ แรม ๘ ค่ำ กับแรม ๑๕ ค่ำ ของทุกเดือน(หากตรงกับเดือนขาด อาจเป็น แรม ๑๔ ค่ำ )» อ่านต่อ

บุคคลสำคัญทางศาสนา

พระโพธิญาณเถระ (ชา สุภทฺโท)

                         
พระโพธิญาณเถระ หรือ หลวงปู่ชา สุภัทโท นามเดิม ชา ช่วงโชติ เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๑
ณ บ้านก่อ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๒ ณ วัดก่อใน ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี อุปสมบทแล้วท่านได้อุทิศตนศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง แล้วจึงจาริกออกปฏิบัติธรรมตามป่าเขาลำเนาไพร จนเมื่อได้เวลาอันสมควร คือ พ.ศ. ๒๔๙๗ จึงกลับมาก่อตั้งวัดหนองป่าพง ซึ่งเป็นวัดป่าฝ่ายอรัญวาสีที่บ้านเกิด โดยมีท่านเองเป็นเจ้าอาวาส พร้อมทั้งได้เริ่มงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา แก่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และได้ก่อตั้งวัดป่านานาชาติเพื่อเป็นวัดนานาชาติสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการบวชในพระพุทธศาสนา นับแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันวัดหนองป่าพงมีสาขาอยู่ทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก รวมแล้วไม่น้อยกว่า ๒๐๐ สาขา หลวงปู่ชามรณภาพเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ นับว่าเป็นพระมหาเถระที่มีผลงานทางด้านเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้านวิปัสสนาธุระที่โดดเด่นที่สุดรูปหนึ่งของสังคมไทยปัจจุบัน
  พระพิศาลธรรมพาที (พยอม กัลยาโณ)
พระพิศาลธรรมพาที
(พยอม กัลยาโณ) นามเดิม พยอม จั่นเพชร เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๙๒ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บรรพชาเมื่อ เมษายน ๒๕๐๒ และอุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๓ ณ วัดสังวรณ์วิมลไพบูรย์ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สำเร็จการศึกษา น.ธ.เอก ในปี พ.ศ.๒๕๑๖ และได้ไปจำพรรษาอยู่กับท่านพุทธทาสที่สวนโมกขพลารามในการปฏิบัติธรรม แล้วจึงได้กลับมาทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพัฒนา วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระนักเทศน์และพระผู้เสียสละ ดังกวีนิพนธ์ โดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พระผู้สร้างผู้ทำนำคนทุกข์
 ให้รู้ทางสร้างสุขพึ่งตนได้
เอาเหงื่อต่างน้ำมนต์พ้นพิษภัย
 เอาชนะทุกข์ได้ด้วยการงาน
เป็นที่พระพิศาลธรรมพาที
 เป็นพระดีที่รักของชาวบ้าน
ไม่ออกนอกแก่นธรรมนอกตำนาน
 ท่านอาจารย์พระพยอม กัลยาโณ

ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

นิทานอีสปเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า

นิทานอีสป

นิทานอีสป
ใครหนอ...สร้างนิทานอีสป
นิทานที่ได้รับความนิยมและเชื่อว่าเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมากที่สุดรวมถึงในประเทศไทยด้วย คงหนีไม่พ้นนิทานอีสป ซึ่งนอกจากจะมีเรื่องราวสนุกสนานแล้วด้านหลังเล่มยังมีคติสอนใจจากเนื้อเรื่อง ด้วยคำว่า นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
หลายคนนึกสงสัยว่า ใครหนอ ช่างคิดเรื่องราวที่สนุกและแฝงแง่คิดที่ใช้ได้ไม่ล้าสมัยน้า...
วันนี้มีคำตอบมาเฉลยให้หายสงสัย
"นิทานอีสป" มีต้นกำเนิดอยู่ที่อาณาจักรกรีกโบราณ ซึ่งเจ้าของเรื่องเล่าอันสุดแสนสนุกไม่ใช่นักปราชญ์แต่เป็นทาสที่ไร้การศึกษาแต่เปี่ยมไปด้วยเชาวน์ปัญญาต่างหาก!!!
และชื่อของเขาคือ อีสป ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนิทานอีสปนั่นเอง
อีสปเป็นชายผิวสีชาวแอฟริกาที่มีชีวิตอยู่ในนครรัฐกรีกและต้องการทำมาหากินโดยการขายตัวเป็นทาส แต่โชคร้ายที่รูปร่างหน้าตาของเขาไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานที่พิจารณาคนที่มีความสามารถด้านการต่อสู้เป็นหลัก แต่พระเจ้ากลับประทานมันสมองอันเลอเลิศให้แก่อีสปเป็นการตอบแทน เขาจึงหันมาใช้สติปัญญาในการหาเลี้ยงชีพแทนการใช้กำลัง
สุดท้ายแล้วอีสปก็สามารถเอาชนะใจคนกรีกได้ ด้วยการเล่าเรื่องธรรมดาๆ แต่สอดแทรกด้วยปรัชญา แง่คิด และคติสอนใจต่างๆ ซึ่งเมื่อใครได้ฟังก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ อีกทั้งยังนำคติสอนใจที่ได้รับไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองได้ด้วย
ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของเรื่องราวจากอีสปก็คือ เขาจะใช้ตัวละครที่เป็นสิงสาราสัตว์ทั่วไป เช่น "หมาป่ากับลูกแกะ, สุนัขกับเงา, ราชสีห์กับหนู" หรือ "สุนัขจิ้งจอกกับกา" เป็นต้น
ความรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำราหรือในระบบการศึกษาเท่านั้น หากเรารู้จักค้นคว้าหาความรู้รอบตัวก็จะเป็นคนฉลาดแบบอีสปได้เหมือนกันนะ

กฏแห่งกรรม

กฎแห่งกรรม : กฏแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ

ข้อมูลจาก www.jarun.org

 
 
เรื่องราวหลากหลายชีวิตของบุคคลต่าง ๆ ที่ประสบเคราะห์กรรม ผจญความทุกข์นานานับประการ พวกเขาจะมาเล่าชีวิตของเค้าให้พวกเราฟัง และวิธีในการแก้ปัญหาชีวิตเหล่านั้นว่าทำได้อย่างไร
หนังสือกฏแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัตินี้ คณะศิษยานุศิษย์ร่วมกันจัดพิมพ์ถวาย แด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เพื่อมอบเป็นธรรมทานแก่บรรดาศิษย์ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของท่าน วันที่ ๑๕ สิงหาคม ของทุกปี จนเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมา ตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ จวบจนถึงปัจจุบัน

ดาวน์โหลดหนังสือกฏแห่งกรรม
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๒๑
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๒๐
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๙
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๘
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๗
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๖
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๕
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๔
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๓
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๒
หนังสือกฏแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๑
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑๐
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๙
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๘
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๗
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๖
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๕
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๔
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๓
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๒
หนังสือกฎแห่งกรรมธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๑